เราจะจัดการกับอารมณ์โกรธได้อย่างไร

เราจะจัดการกับอารมณ์โกรธได้อย่างไร
ความโกรธเป็นภาวะทางอารมณ์อย่างหนึ่งที่แสดงออกด้วยอาการโมโห หงุดหงิดหัวเสีย เคียดแค้นชิงชัง อาฆาตพยาบาท ซึ่งระดับความโกรธของแต่ละคนอาจจะมีความรุนแรงต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับเหตุ หรือปัจจัยที่เกี่ยวข้อง บางคนอาจรู้สึกแค่หงุดหงิดเล็กน้อย บางคนอาจเอะอะโวยวายเสียงดัง ด่าว่าคนที่ทำให้โกรธ บางคนโกรธแล้วไม่อยากข้องเกี่ยวกับใครอยากปลีกวิเวกอยู่คนเดียว บางคนเวลาโกรธอาจจะไม่แสดงออกแต่สะสมเก็บกดเอาไว้ในใจเหมือนระเบิดเวลาที่รอเวลาปะทุออกมา บางคนแสดงออกอย่างรุนแรงถึงขั้นทำลายข้าวของหรือทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือบางกรณีทำร้ายตนเองเหมือนคนขาดสติก็มีเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อารมณ์โกรธล้วนแต่ก่อให้เกิดผลเสียทั้งกับตัวของผู้โกรธและผู้ที่ถูกโกรธทั้งสิ้น 

angry
สาเหตุที่ทำให้คนเราเกิดอารมณ์โกรธ

1.ถูกขัดใจ ถูกคุกคาม หรือถูกรังแกจากผู้อื่นด้วยคำพูดหรือการกระทำ
2.ผิดหวังในตัวคนหรือไม่สมหวังในสิ่งที่มุ่งหมายไว้
3.ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือท่ามกลางผู้คนที่กดดัน มีการแข่งขันแย่งชิง หรือมีความหงุดหงิดในสภาพแวดล้อมรอบตัวมากๆ เช่น รถติด ผู้คนพลุกพล่าน
4.ถูกรบกวนจากคนอื่น เช่น ถูกใช้ให้ทำนั่นทำนี่ตลอดเวลา
5.ถูกบังคับจิตใจ ไม่สามารถทำสิ่งใดๆ ตามความต้องการของตนเองได้

เมื่อรู้สึกโกรธเราควรทำอย่างไร

1.ระบายกับคนใกล้ชิด เมื่อตกอยู่ในอารมณ์โกรธ สิ่งหนึ่งที่ช่วยละลายความโกรธได้ดีมาก ก็คือ การหาใครสักคนที่เราไว้ใจได้ ซึ่งอาจจะเป็นคนในครอบครัว คนรักหรือเพื่อนสนิท ในการปรึกษาและระบายความคับข้องใจของเราออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรถามเขาเหล่านั้นก่อนว่าเขายินดี และพร้อมที่จะให้เราได้ปรึกษา หรือระบายความอัดอั้นตันใจหรือไม่ การที่เราได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ภายในกับคนสนิท จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เพราะเรามักจะได้รับคำปลอบใจ การให้กำลังใจหรือคำแนะนำที่ดีจากคนที่รักและหวังดีกับเรา

2.เล่นกีฬา ควรเลือกเล่นกีฬาที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เช่น เล่นโยคะ เต้นลีลาศ หรืออาจจะเล่นกีฬาที่เล่นคนเดียวได้โดยที่ไม่ต้องแข่งขันกับคนอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดที่เพิ่มขึ้นที่อาจได้รับจากการแข่งขัน เช่น เดินออกกำลัง ว่ายน้ำ วิ่ง การออกกำลังกายสามารถช่วยบรรเทาอารมณ์โกรธได้ เพราะนอกจากจะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าแล้ว ยังทำให้เกิดสมาธิที่ดีด้วย

3.ฟังเพลง การฟังเพลงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยดับอารมณ์โกรธและความขุ่นมัวได้ดีมากอีกวิธีหนึ่ง เพราะดนตรีช่วยในการผ่อนคลายความเครียด อีกทั้งยังช่วยทำให้มีอารมณ์ที่สงบ ซึ่งเพลงหรือดนตรีที่ช่วยลดความขุ่นมัวของอารมณ์ได้ดีก็คือเพลงบรรเลงที่มีทำนองช้าๆ ที่มีเสียงธรรมชาติประกอบ เช่น เสียงลมพัดเบาๆ เสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง หรือถ้าฟังเพลงที่มีเนื้อร้อง ก็ควรเลือกฟังเพลงที่มีเนื้อหาทางบวกและเสริมสร้างทัศนคติที่ดีกับชีวิต อย่าเลือกฟังเพลงที่มีเนื้อหารุนแรงหรือดนตรีที่มีจังหวะดุดัน เพราะจะมีผลไปกระตุ้นอารมณ์ให้อารมณ์คุกรุ่นยิ่งขึ้น

4.หากิจกรรมคลายเครียดทำ เวลาโกรธเราไม่ควรปล่อยให้ตัวเองว่าง เพราะจะยิ่งทำให้เราคิดและฟุ้งซ่านถึงคน หรือเรื่องที่ทำให้เราโกรธ ดังนั้น เราจึงควรหากิจกรรมที่ตนเองชอบทำเพื่อช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย บางกิจกรรมอาจทำให้ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น เช่น การอ่านหนังสือ บางกิจกรรมอาจทำให้เราได้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ เช่น ประดิษฐ์สิ่งของ ทำงานฝีมือ ทำให้เราเกิดความชื่นชมในความสำเร็จของตนเองและรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นได้

5.กินอาหาร เวลาโกรธหากได้ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ขนมหวาน ผลไม้สดๆ หรือรับประทานของโปรด จะทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็ต้องควบคุมปริมาณของอาหารและเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เป็นผลเสียแก่ร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด เพราะนอกจากไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่ร่างกายแล้ว เครื่องดื่มมึนเมาอาจทำให้เราขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ และก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่เราด้วย

6.ทำสมาธิ การนั่งสงบจิตใจ หรือเอนกายนอนพักสงบแล้วปล่อยจิตใจให้ว่างหรือคิดถึงแต่สิ่งที่ดีงามจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอารมณ์โกรธลงได้ หากเรามีอารมณ์โกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ลองหลบไปหาที่เงียบๆ สงบๆ เช่น ในสวน แล้วหลับตาลงสักพัก คิดถึงสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข ก็จะช่วยเราได้มากทีเดียว

7.ทำประโยชน์ให้ผู้อื่น เช่น การไปเลี้ยงอาหารเด็กด้อยโอกาส การไปอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง การบริจาคโลงศพ การช่วยเหลือหรือทำประโยชน์ให้กับสังคมหรือผู้อื่นจะทำให้เรารู้สึกว่าตนเองมีค่าและรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขจัดอารมณ์โกรธของเราได้ เพราะเราจะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งเล็กน้อยที่จะใส่ใจ ชีวิตเรามีค่าเกินกว่าจะมาหมกมุ่นกับสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี แต่เราควรจะไปคิดคำนึงและเอาเวลาไปทำในสิ่งที่เราควรทำและเกิดประโยชน์มากกว่า

การจัดการให้ความโกรธแม้อาจไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเท่าใดนัก เพราะเป็นเรื่องที่อาจต้องใช้ความพยายามในการปรับอารมณ์ของตนเองเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเรามีความเข้าใจและรู้เท่าทันกับความโกรธของตนเองและสามารถจัดการกับมันได้อย่างฉลาด เราจะเอาชนะมันได้ในที่สุดและเราก็จะไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังกับผลร้ายที่เกิดจากความโกรธของเราอีกเลย

 

ข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์